น้องไอซ์ | Kaplan Business School


  • Q: นักเรียนมาเรียนคอร์สอะไร สถาบันไหน และเมืองอะไร?
  • A: มาเรียน Bachelor of Business, Accounting at Kaplan Business School ที่เมลเบิร์น 1 ปี แล้วย้ายไปที่เพิร์ธค่ะ
  • Q: ทำไมนักเรียนถึงเลือกเรียนคอร์สนี้?
  • A: ส่วนตัวสนใจด้านการทำธุรกิจมาตลอดอยู่แล้วค่ะ แต่ขอเกริ่นก่อนว่าตอนม. ปลายก็มุ่งมั่นเรียนแต่สายวิทย์สุขภาพมาตลอด ความยากคือการย้ายสายนี่แหละค่ะ สิ่งที่เราชอบแต่ไม่ค่อยมีพื้นฐาน ก็ค่อนข้างยากค่ะ ยิ่งมาเรียนที่ออสเตรเลียเรียนทุกวิชาเป็นภาษาอังกฤษก็ยิ่งยาก แต่ต้องเปิดใจค่ะ ถ้าเรารู้ตัวว่าเราไม่ถนัดด้านไหนก็ทุ่มเทแล้วก็ฝึกฝนให้มากกว่าคนอื่นค่ะ ตอนมาเรียนที่เมลเบิร์นเทอมแรก ต้องปรับตัวหลายอย่างยิ่งในคลาสเรียนคือแตกต่างจากที่ไทยมากค่ะ เรารู้ตัวว่าเราอ่อนด้านการพูด เราก็เลยต้องกลับไปฝึกให้มากกว่าเพื่อนค่ะ เอาชนะกำแพงด้านภาษาได้แล้วอย่างอื่นจะง่ายขึ้นค่ะ เตรียมตัวมาก่อนจะดีมากค่ะ ในส่วนของคอร์สเรียน Kaplan Business School มีหลายสาขา นักเรียนก็หลากหลายเชื้อชาติคอร์สเรียนก็ได้รับการยอมรับค่ะ ถ้าพูดในส่วนของข้อดีคือ คอร์ส Higher Education ที่ค่าเรียนถือว่ายังพอไหวค่ะ ถ้าหากเราได้ทุนจากทางสถาบันก็ยิ่งดีเลยค่ะ ถึงจะเป็นสถาบันแต่เนื้อหาการเรียนเข้มข้นมาก ๆ เทียบกับเพื่อนที่เรียนมหาวิทยาลัยดัง ๆ เนื้อหาก็คล้ายคลึงกันเลยค่ะ เกณฑ์การให้คะแนนก็ถือว่าโหดค่ะ ที่สำคัญคือการอ่านทบทวนหาความรู้เพิ่มเติมนอกคลาสเรียน และสำคัญมากๆๆ คือ การส่งงานส่งการบ้านให้ครบและคอยทบทวนเนื้อหาอยู่ตลอดค่ะ สำหรับข้อเสียของที่นี่ เพราะความเป็นสถาบัน ไม่ใช่มหาลัยทำให้เราขาดคอมมูนิตี้ตรงส่วนนี้ไปค่ะ ไม่มีชมรม ไม่มีปาร์ตี้กับเพื่อน แล้วก็ facility มีไม่เยอะเหมือนเรียนมหาลัยค่ะ ความคิดเห็นส่วนตัว ถ้าใครมีงบถึงเราแนะนำให้เรียนในUniversityดีกว่าค่ะ
  • Q: เมืองที่อยู่เดินทางสะดวกและปลอดภัยมั๊ย ผู้คนเป็นอย่างไรบ้าง?
  • A: จากประสบการณ์การอยู่มา 2 เมือง Melbourne และ Perth นะคะที่เมลเบิร์นอากาศจะแปรปรวนมากๆ แต่อยู่ไปได้ไม่นานก็ชินค่ะ ไปถึงเดือนแรกป่วยไปแล้ว 3 ครั้งค่ะ ใครสุขภาพไม่ดีแต่สนใจมาเรียนที่นี่ก็ต้องเตรียมตัวกันนิดนึงค่ะ ที่เมลเบิร์นเดินทางสะดวกมากๆๆๆ และก็รู้สึกว่าปลอดภัยมากเลยเลิกงานเดินกลับบ้านคนเดียวตอนตี2ก็ไม่น่ากลัวค่ะ(ในเมือง) แต่จริงๆอยู่ที่ไหนก็อันตรายป้องกันและดูแลตัวเอง ไม่เอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงคือดีที่สุดค่ะ สำหรับผู้คนที่เมลเบิร์นคือ niceมากค่ะ แค่เดินสวนกันบนถนนก็เป็นเพื่อนกันได้แล้ว การเดินทางสะดวกของเมลเบิร์นทำให้เรารู้สึกว่าเหมาะกับคนที่มาที่นี่คนเดียวค่ะเราสามารถไปไหนมาไหนคนเดียวได้ง่ายมากๆ ไปทะเล ไปสวนสัตว์ไปเที่ยวคนเดียวสะดวกมากจริงๆค่ะ คาเฟ่เยอะมาก ร้านอาหารร้านขนมก็เยอะเมลเบิร์นจะมีความอาร์ตๆเยอะค่ะ มีตลาด มีอีเวนท์เยอะ แต่ข้อเสียในใจกลางเมือง CBD ก็จะมีความวุ่นวายมาก คนเยอะ โดยเฉพาะคืนวันปาร์ตี้ก็จะมีคนเมาเยอะด้วยค่ะ ยิ่งคนเยอะก็เหมือนแย่งกันกินแย่งกันใช้ค่ะ ของในห้างก็จะหมดไว ร้านอาหารคนต่อคิวยาวเป็นชั่วโมงก็มีค่ะ ส่วนเพิร์ธจะค่อนข้างเงียบ เมืองเล็กและกำลังโตค่ะ มองไปทางไหนก็จะมีการก่อสร้าง ตึกสูงๆยังมีไม่เยอะมาก มีความคล้ายเมืองไทยในเวอร์ชันที่ดีขึ้นค่ะ การเดินทางที่เพิร์ธจะใช้รถบัสเป็นหลัก ถ้าเทียบกับเมลเบิร์นจะเดินทางลำบากกว่าคนที่นี่ส่วนใหญ่จะขับรถกันเองค่ะ ถ้ามีรถก็จะสะดวกกว่ามากๆ ถ้าใช้ชีวิตคนเดียวที่เพิร์ธอาจจะยากนิดหน่อย ด้วยความที่เดินทางลำบากบวกกับอีเวนท์มีไม่เยอะ ก็อาจจะเหงาได้ ผู้คนที่เพิร์ธก็หลากหลายเหมือนกันค่ะจะไม่เยอะแบบเมลเบิร์น ไม่วุ่นวาย ไม่เร่งรีบ แต่ต้องระวังคนกลุ่มนึงค่ะเหมือนที่นี่จะเรียกคนกลุ่มนี้ว่า อะบอริจิน คือเป็นเหมือนกลุ่มคนที่เขาอยู่มาก่อนค่ะ ค่อนข้างอันตราย ไปไหนมาไหนคนเดียวอย่าไปมองหน้า หรืออย่าเข้าไปใกล้จะดีที่สุด แต่ก็ไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้นนะคะ เพราะว่าตำรวจที่นี่ก็เยอะมากๆและคอยเดินตรวจตลอดทั้งวันด้วยความที่เพิร์ธเป็นเมืองเล็กและกำลังเติบโต เลยมีโอกาสเยอะมากๆค่ะ ตอนนี้คนกำลังย้ายมาอยู่ที่เพิร์ธเยอะขึ้นค่ะ อากาศคล้ายไทย ไม่อึมครึม ที่สำคัญคือทะเลสวยมากๆค่ะ คนที่เพิร์ธชอบไปเที่ยวที่บาหลีเพราะอยู่ใกล้ค่ะ ใครชอบความสงบ ชอบอากาศดี ไม่ชอบความหนาว เลิฟทะเล แนะนำเพิร์ธค่ะ
  • Q: สิ่งที่ประทับใจเกี่ยวกับการมาเรียนที่ประเทศออสเตรเลีย? (เช่น ระบบการศึกษา วัฒนธรรม ผู้คน สถานที่ท่องเที่ยว โอกาสในการทำงาน)
  • A: ประทับใจการมาเรียนที่ออสเตรเลียหลายอย่างเลยค่ะมาที่นี่เหมือนได้ฝึกการมีความรับผิดชอบ การที่เรียนไปด้วยและทำงานไปด้วยก็ค่อนข้างหนักค่ะ การแบ่งเวลาเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เหมือนมาฝึกตัวเองให้เป็นคนที่ดีขึ้นค่ะ ระบบต่าง ๆ ที่นี่ ทำให้เราเห็นภาพอนาคตของตัวเองมากขึ้น มีเป้าหมายและจุดมุ่งหมายมากขึ้นค่ะเราเป็นคนนึงที่เรียนมาเยอะมาก เป็นเด็กที่เรียนพิเศษมาตลอดเรียกได้ว่าถวายชีวิตให้แก่การเรียนเลยค่ะ พอได้มาเรียนที่ออสเตรเลียด้วยความที่ระบบการศึกษาที่นี่เน้นความเข้าใจและการประยุกต์ใช้ทำให้เราเรียนและนำไปใช้แบบตรงจุด ไม่มีนะคะการจำสูตรไปทำข้อสอบที่นี่จะมีสรุปสูตรมาให้ในข้อสอบเลยค่ะ ถ้าเข้าใจและวิเคราะห์ได้ก็จะตอบได้ค่ะ ระบบการเรียนที่นี่ทำให้เราสามารถแบ่งเวลาไปทำอย่างอื่นได้ จึงสามารถทำงานเสริมได้ด้วยมีเวลาในการหาความรู้นอกห้องเรียนและอ่านทบทวนมากขึ้น ตอนเรียนที่ไทยแค่นอนยังแทบไม่มีเวลาเลยค่ะ เรียนที่ออสเตรเลีย เรียนยาก เรียกหนัก แต่มีเวลาให้ตัวเองมากขึ้นค่ะ
  • Q: อยากแนะนำหรือบอกอะไรกับนักเรียนที่สนใจมาเรียนที่ประเทศออสเตรเลียในอนาคตบ้าง? (เช่น การเตรียมตัวหรือสิ่งที่ควรเตรียมมา)
  • A: เตรียมใจค่ะ การมาเรียนที่ออสเตรเลียไม่ใช่เรื่องง่ายและก็ไม่ได้ยากแต่ต้องมีความรับผิดชอบและต้องแบ่งเวลาให้เป็นค่ะ โดยเฉพาะคนที่สนใจจะมาเรียน Higher Education ต้องเตรียมใจจริง ๆ ค่ะ นอกจากเตรียมใจต้องเตรียมภาษาด้วยค่ะ ฝึกภาษามาก่อนเลย ได้เปรียบมากๆที่สุดแล้วค่ะ ฝึกฝนพัฒนาตัวเองอยู่ตลอด แต่อย่ากดดันตัวเองค่ะ ตั้งเป้าหมายไว้จะดีที่สุด ถ้ารู้ว่าตัวเองมาที่ออสเตรเลียทำไม เพื่ออะไรเราก็จะใช้ชีวิตที่ออสเตรเลียได้แบบไม่กดดันไม่เครียดจนเกินไปค่ะ สิ่งที่ควรเตรียมมา แนะนำเป็นพวกของใช้ค่ะ ของกินอย่าพกมาเลยค่ะที่ออสเตรเลียมีแต่ของอร่อย ๆ วัตถุดิบหรือร้านอาหารไทยก็มีเยอะค่ะ อาหารเอเชียหาทานง่ายกว่าตอนอยู่ไทย แนะนำให้เตรียม ยา(จำเป็นมากๆค่ะ) ยาที่ออสแพงและหาซื้อยาก แนะนำยาดมด้วยค่ะ เพื่อนๆต่างชาติหลายคนชอบ เคยได้เพื่อนเพิ่มจากเรื่องยาดมนี่แหละค่ะ / เครื่องสำอางค์ โดยเฉพาะเครื่องสำอางค์เกาหลีค่ะ ที่ไทยถูกกว่าและมีให้เลือกเยอะกว่ามากค่ะ / เวย์โปรตีน ที่ออสมีค่ะ แต่ไม่อร่อยเหมือนของไทย/ ของน่ารักๆ ใครติดของใช้น่ารักๆแบบเรา แบกมาจากไทยค่ะ เช่น เคสโทรศัพท์ กิ๊บติดผม ที่นี่ไม่ค่อยมีของน่ารักๆค่ะ / ผ้าอนามัย สำหรับคนแพ้ง่าย เตรียมมาเลยค่ะ /จริงๆแล้วของใช้ที่จำเป็นที่ออสเตรเลียส่วนมากก็มีขายหมดเลย ของไทยก็มีบ้าง แค่ราคาถูกแพงแค่นั้นเองค่ะ สิ่งที่ควรเตรียมมากที่สุดที่จำเป็นในการเอาชีวิตรอดที่นี่คือ ภาษา และสกิลการทำงานค่ะ